รีวิวเที่ยวฝรั่งเศส เส้นทางนอร์มังดี ลุ่มแม่น้ำลัวร์ ตอนที่ 5 : Mont Saint Michel และปราสาทเชอนงโซ (Chenonceau)

แป๊ปเดียว วันเดินทางที่เก้าแล้วค่ะ เวลาเที่ยวนี้ช่างผ่านไปไวจริง ๆ โปรแกรมเช้านี้ต้องบอกว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวเส้นนอร์มังดี อยากจะมาชมวิหารกลางน้ำ มงแซง มิเชล แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน เป็นสถานที่ที่คนมาเยี่ยมมากที่สุดเป็นอับดับ 3 รองจากหอไอเฟล และพระราชวังแวร์ซายส์เท่านั้นเองค่ะ เห็นอยู่ลิบ ๆ แล้วe41วิหารตั้งอยู่กลางทะเลชายฝั่งตะวันตกที่เมืองมงซ์ แคว้นบัส-นอร์มังดี ห่างจากปารีสประมาณ 300 กิโลเมตร ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1979 จากจุดจอดรถจะมี service center บริการข้อมูล และเราก็เดินต่อไปรอรถ shuttle bus กันค่ะe42e43e44ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีก็มาถึงจุดที่รถบัสจอดให้เราลง เดินเท้ากันต่ออีกนิด ตัวเกาะที่เป็นที่ตั้งของวิหารเป็นหินแกรนิต มีเส้นวงรอบเกาะประมาณ 960 เมตร สูง 92 เมตร ถ้าบวกกับความสูงของวิหารก็จะสูงถึง 155 เมตร ถือว่าเป็นปราการธรรมชาติในยุคกลางe45e46e52สำหรับความเป็นมาของมงแซง มิเชล มีเรื่องเล่าว่าเมื่อเทวฑูตมิเชล (St.Michel) ซึ่งเป็นนักบุญที่ทำหน้าที่ชั่งความดีความเลวของมนุษย์ ได้เข้าปรากฎองค์ในฝันของนักบุญโอแบรต์ เจ้าอาวาสแห่งอาวรางซ์ โดยมีบัญชาให้สร้างสถานที่เผยแพร่คำสั่งสอนของพระเจ้าบนเกาะที่มีภูเขา แต่ท่านก็ไม่ได้ปฎิบัติตามนึกว่าเป็นปีศาจมาเข้าฝัน จนถึงครั้งที่ 3 เทวฑูตมิเชลได้ใช้นิ้วเข้าที่หัวของนักบุญโอแบรต์ และเมื่อเขาตื่นก็ตกตะลึงว่ามีรูบนหัวเขาจริง ๆ ทำให้เขาตัดสินใจสร้างวิหารบนยอดเขานี้เมื่อปี ค.ศ. 709 ระหว่างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร แต่เรายังไม่แวะค่ะ ขอขึ้นไปชมวิหารด้านบนกันก่อนe47e48การสร้างโบสถ์เต็มไปด้วยความลำบากเพราะต้องนำหินแกรนิตมาจากเกาะโชเซย์ ทั้งยังต้องลำเลียงหินขึ้นเขาที่สูงชัน ต่อมาในปี ค.ศ. 966 กษัตริย์ริชาร์ดที่ 1 ดยุคแห่งนอร์มังดี ได้ส่งพระนิกายเบเนดิกต์ 30 รูปเข้ามาช่วยสร้างโบสถ์ โบสถ์จึงมีรูปร่างคล้ายปิรามิดกลมกลืนไปกับรูปเกาะเดิมe55e49หลังจากนั้นที่นี่ก็กลายเป็นจุดมุ่งหมายของการแสวงบุญของชาวคริสต์ โดยจะข้ามจากแผ่นดินใหญ่ไปยังเกาะยามน้ำลด แต่บางครั้งกระแสน้ำก็เปลี่ยนเร็วมากทำให้ผู้แสวงบุญเสียชีวิตในการเดินทาง ผู้คนเลยเริ่มมาอาศัยกันอยู่บนเกาะ ได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ และได้รองรับผู้แสวงบุญมากมาย ถึงกับเรียกทางเข้านี้ว่าทางสู่สรวงสวรรค์e54ในปี 1204 เกิดไฟไหม้ขึ้น กษัตริย์ Phillips Augustus จึงได้บริจาคเงินซ่อมแซมโบสถ์จนกลายเป็นโบสถ์แบบโกธิค เดินต่อกันมาในโบสถ์ด้านในค่ะe50e57e56ช่วงศตวรรษที่ 14 เกิดสงครามร้อยปีระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษหรือสงครามแย่งชิงบัลลังก์ฝรั่งเศส สถานที่นี้จึงกลายเป็นป้อมปราการ เพื่อป้องกันข้าศึกที่มาจากทั้งทางบกและทางน้ำ แม้อังกฤษจะเคยครอบครองดินแดนแห่งนี้แต่ในช่วงสงครามก็ยังอนุญาตให้ผู้แสวงบุญเดินทางเข้ามาได้e60ออกมาด้านนอกจะเจอสวนและเสาสวย ๆ แบบนี้ค่ะe59e58e61ในช่วงปฎิวัติฝรั่งเศส เนื่องจากไม่มีนักบวชอยู่ที่นี่ ทำให้ตัววิหารกลายเป็นที่คุมขังนักโทษทางการเมือง จนกระทั่งวิคเตอร์ อูโก ได้มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ให้ยกเลิกการเป็นเรือนจำและได้ถูกเปลี่ยนสถานะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ. 1874 และเปรียบมงแซง มิเชล ดุจดั่งปิรามิดของอียิปต์e62e63e64จากสวนสวยก็เดินไปตามทางต่อเข้าไปในตัววิหาร เดินไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องคิดถึงอดีตนะคะ ไม่งั้นต้องแอบวังเวงแน่ ๆe65e66e67e68e69e70e71ออกมาทางด้านหลังบ้าง มองไปจะเห็นหาดและทะเลอยู่ลิบ ๆ ในอดีตโบสถ์กลางน้ำนี้จะถูกตัดขาดจากแแผ่นดินใหญ่วันละ 2 ครั้ง ตามเวลาน้ำขึ้น น้ำลง ช่วงน้ำขึ้นโบสถ์นี้จะเหมือนโบสถ์ลอยอยู่กลางน้ำ แต่จริง ๆ จะมีน้ำล้อมเกาะนี้เต็มเพียงเดือนละหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น เมื่อน้ำลดเราก็สามารถเดินข้ามไปได้ การเดินจะต้องมีผู้ชำนาญพาไป เพราะทรายบางจุดเป็นทรายดูดและกระแสน้ำที่เปลี่ยนอย่างเร็ว อาจจะถูกพัดออกไปได้e73e72e75e74ดอกไม้สวย ๆ ในฤดูใบไม้ผลิe76ปัจจุบันมีการสร้างถนนเชื่อมเกาะกับชายฝั่งเพื่อความสะดวกในการสัญจร แต่ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์มาจอดหน้าป้อมได้อย่างในอดีตแล้วนะคะ เพราะถนนนี้กลายเป็นเขื่อนย่อม ๆ บังคับน้ำทะเลให้เดินผิดธรรมชาติe77e78e79และเราก็ออกมาเดินเล่นกันต่อค่ะ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านคาเฟ่ ร้านอาหารe83e82e81ของกินขึ้นชื่อของเกาะนี้ ใครจะเชื่อว่าคือ ไข่เจียว อ่านไม่ผิดค่ะ ไข่เจียวของโรงแรม La Mere Poulard เรียกว่าออมเลต เดอ ลา แมร์ ปูลาด อยู่ใกล้ๆ ทางเข้าค่ะ จริง ๆ แล้ววิธีทำคล้ายกับการทำแพนเค้ก ใส่แม่พิมพ์แล้วพลิกไปมา ต้องลองกันดูนะคะว่าจะผิดหวังหรือสมหวัง ที่แน่ ๆ ราคาไข่เจียวก็ 25 ยูโรแล้วค่ะ และขนมขึ้นชื่ออีกอย่างของที่นี่คือคุ้กกี้ของโรงแรมนี้เหมือนกัน ชิมแล้วรสชาติโอเคค่าe80e84e85เสร็จภารกิจเดินเที่ยว ชิม ช้อปเรียบร้อยก็ออกมารอรถ shuttle bus เพื่อไปทานอาหารกลางวันตรงบริเวณก่อนทางเข้ามงแซง มิเชล บริเวณนี้มีร้านอาหารหลายร้านให้เลือก รวมถึงโรงแรมด้วย ถ้าใครอยากหาที่พักใกล้ ๆ แถวนี้ก็ลองเลือกดูได้ ขอปิดท้ายด้วยมงแซง มิเชลตอนท้องฟ้าใส ๆ มาใสเอาตอนเราจะกลับเน้อe86e87e88ทานอาหารกลางวันกันเรียบร้อย บ่ายนี้นั่งรถกันยาว ๆ ไป คืนนี้จะไปพักกันที่โรงแรม Mercure Tours Centre เมืองตูร์ (Tours) ตั้งอยู่บนเส้นทางลุ่มแม่น้ำลัวร์ ถ้าใครชอบธรรมชาติ แนว ๆ ชนบท เส้นทางนี้ก็เป็นอีกเส้นทางที่สวยค่ะ e89วันเดินทางที่ 10 แล้วค่ะ เช้านี้นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงปราสาทเฌอนงโซ (Chenonceau Castle) เราเลือกที่จะเข้าชมเพียงปราสาทเดียว ดูข้อมูลแล้วปราสาทเฌอนงโซน่าสนใจสำหรับเราที่สุดเพราะมีรูปแบบการสร้างปราสาทที่แตกต่างจากที่อื่นนั่นคือการสร้างปราสาทคร่อมแม่น้ำแชร์e90บริเวณด้านหน้าe91e92ปราสาท หรือ Chateaux ริมแม่น้ำลัวร์มีมากกว่า 300 หลัง สร้างโดยกษัตริย์และขุนนาง ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 10-20 และในปี 2000 องค์การยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนปราสาทแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมe93e96e94e95บริเวณภายในปราสาท คล้ายๆ กับปราสาททั่วไป มีห้องนอน ห้องครัว ห้องรับแขก ห้องทำงาน แต่ที่นี่ได้เพิ่มดอกไม้ช่อใหญ่ไว้เกือบทุกห้อง ทำให้เวลาเดินชมรู้สึกสบายตาและสดชื่นไม่น้อยe97f7e98รูปพระนางแคทเธอรีน เมดิซีe99ภายในปราสาทสามารถเดินชมได้เองค่ะf3f4f3f22f14บางห้องมีการนำอุปกรณ์ใหม่มาตกแต่งเพิ่มพร้อมดอกไม้สวย ๆ ทำให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะf1f2f5f6มองจากระเบียงชั้นบนf8f23เดินออกมาด้านนอกไปดูส่วนปราสาทที่สร้างคร่อมแม่น้ำแชร์กันค่ะf16f24f25ปราสาทเฌอนงโซ (Chenonceau Castle) เป็นปราสาทเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 400 ปีบริเวณโดยรอบเป็นทุ่งหญ้าและป่าเขา ถูกออกแบบก่อสร้างด้วยศิลปะแบบผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเรเนอซองส์กับศิลปะแบบคลาสสิคสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ตัวปราสาทหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำและมีการต่อเติมส่วนแกลลอรี่บนตอม่อโค้ง 5 ช่องลงบนแม่น้ำแชร์f15f9f10ภายในส่วนทางคร่อมปราสาท ที่มีทางเดินเชื่อมต่อกับตัวปราสาทหลักf11f12f13บริเวณรอบ ๆ มีสวนที่ตกแต่งไว้ได้เป็นระเบียบมากกกf18f17f21บ๊ายบายปราสาทแสนสวยกับดอกไม้สวย ๆ f19f20หลังจากนั้นเรานั่งรถต่อไปทานอาหารกลางวันกันที่เมืองออร์เลอ็อง (Orleans) แล้วช่วงบ่าย ๆ ไปตะลุยปารีสกันค่า เดินผ่านโบสถ์ใหญ่ใจกลางเมืองf28f26f27f29

รีวิวเที่ยวฝรั่งเศส เส้นทางนอร์มังดี ลุ่มแม่น้ำลัวร์ ตอนที่ 6 –> 

รีวิวเที่ยวฝรั่งเศส เส้นทางนอร์มังดี ลุ่มแม่น้ำลัวร์ ตอนที่ 6 กรุงปารีส