รีวิวเที่ยวฝรั่งเศส เส้นทางนอร์มังดี ลุ่มแม่น้ำลัวร์ ตอนที่ 6 กรุงปารีส

ปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่เป็นท็อปลิสต์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมประเทศนี้ถึงมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากที่สุดในโลกกว่า 80 ล้านคน ด้วยจำนวนคนมากขนาดนี้ทำให้ปารีสลดเสน่ห์ลงไปมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเพราะทุกวันนี้ในเมืองเต็มไปด้วยรถโค้ช มองไปทางไหนก็เห็นแต่นักท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าแทบทุกเชื้อชาติโดยเฉพาะพี่จีนเรานี่แหละค่ะ ปัญหาเรื่องการล้วงกระเป๋า ขโมยของก็เพิ่มมากขึ้นแต่ปารีสก็ยังหอมหวลชวนฝันอยู่ดี มาถึงปารีสกันแล้วก็ต้อนรับเราด้วยสายฝนชุ่มฉ่ำกันเลย แม้คนจะเยอะขนาดไหน ความสวยงามของปารีสก็ยังดึงดูดใจได้เสมอ บ่ายนี้เราจะไปชมพิพิธภัณฑ์ลูฟว์กันค่ะ (Louvre museum) พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทางเข้าหลักคือลงไปทางปิรามิดแก้ว ผลงานของ ไอ เอ็ม เป่ย สถาปนิคเชื้อสายอเมริกัน-จีน นอกจากปิรามิดใหญ่แล้ว ยังมีปิรามิดจิ๋วกับน้ำพุอยู่รอบๆ ด้วย ด้านในมีทั้งหมด 3 ชั้น และแยกออกเป็นปีกฝั่งเหนือ (Richelieu), ปีกฝั่งใต้ (Denon) และปีกฝั่งตะวันออก (Sully)จากอดีตที่เป็นป้อมปราการ ได้ขยายมาเป็นพระราชวัง จนในยุคเรเนซองส์ พระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1 ได้ใช้เป็นสถานที่เก็บผลงานศิลปะต่าง ๆ จากทั่วโลก จนเมื่อระบบกษัตริย์ถูกโค่นล้ม รัฐบาลจึงเปิดได้ให้ประชาชนเข้าชม ตรงนี้บริเวณ information ค่ะ มีโบรชัวส์หลากหลายภาษาให้เลือกผลงานมาจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งได้มาจากการชนะสงคราม ของกำนัลจากประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่ยุคสมัยกรีก โรมัน อียิปต์ เอเชีย จีน มีครบที่นี่ค่ะ ว่ากันว่ามีมากมายถึง 400,000 ชิ้น แต่จัดให้เราได้ชมเพียง 40,000 ชิ้นเท่านั้น อย่างรูปปั้นวีนัสแห่งมิโล ว่ากันว่าน่าจะอายุราว ๆ ปลายศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ได้ค้นพบที่เกาะมิโลแถบทะเลอีเจียนและนางเอกที่ใคร ๆ ต้องตามมาดูให้ได้คือรูปวาดโมนาลิซ่า ผลงานของลีโอนาร์โด ดาวินชี คาดว่าวาดไว้ในปี 1503 รูปโมนาลิซ่ามีกระจกกั้นอีกชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้คนเข้าไปทำลายและป้องกันแสงแฟลช แถมยังมีมหาชนช่วยกันมุงอีกชั้น เลยเข้าไปใกล้ได้เพียงเท่านี้ถ้าใครชื่นชอบศิลปะโดยเฉพาะภาพวาด ต้องบอกว่ามีเยอะมาก สามารถใช้เวลาเป็นวัน ๆ ได้ที่นี่ เช่นรูป The Liberty Leading the People รูปผู้หญิงฝรั่งเศสถือธงในยุคปฎิวัติฝรั่งเศส, รูปพิธีสวมมงกุฎนโปเลียน, รูปพระแม่มารี พระเยซู หรืองานปั้น โบราณวัตถุจากอียิปต์ หรือการเดินชมของตกแต่งภายใน เพราะลูฟว์เคยเป็นพระราชวังมาก่อน ด้านในก็ตกแต่งได้สวยงามไม่แพ้วังอื่นๆ ค่ะบริเวณใต้โดมปิรามิดแก้วยังมีห้าง Printemps ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก เผื่อใครชมศิลปะพอแล้ว อยากออกมาช้อปปิ้งต่อก็ได้ค่ะ ส่วนเราขอไปที่ห้าง Galleries Lafayette ตรงถนนโฮสมานน์ ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับโรงละครโอเปร่า การ์นีเย่ร์ (Opera Garnier) โรงละครที่หรูหราที่สุดในปารีสค่ะมาถึงห้างแล้ว นึกว่าอยู่กวางเจา กรุ๊ปคนจีนเยอะมากกกกก ห้างนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1912 ก็ร้อยกว่าปีมาแล้ว ด้านในตกแต่งสวยงามเหมาะกับเป็นห้างในปารีสจริง ๆ ส่วนสาขาที่เมืองอื่น ๆ ก็ไม่ได้หรูหราแบบนี้นะคะ มีทั้งหมด 5 ชั้น 96 แผนก และนักช้อปสามารถทำ refund tax ได้จากที่ห้างนี้เลย ส่วนห้างข้าง ๆ กันคือห้าง Printemps คนเยอะไม่แพ้กัน ถ้าใครต้องการทำ tax refund แนะนำให้เผื่อเวลาไว้ด้วย เพราะพี่จีนคนนึงถือบิลทำ tax refund กันเป็นตั้งเลย และอย่าลืมถ่ายบิลเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วยนะคะ เพราะเวลาเรายื่นเอกสารให้เค้าไปแล้ว เราจะไม่เหลือบิลไว้ไปเรียกเก็บคนฝากซื้อได้เลยค่ะ 555 และ 2 ห้างนี้ปิดวันอาทิตย์นะคะ จะได้วางแผนเลือกวันไปช้อปได้ถูกคืนนี้เข้าพักที่โรงแรม Pullman Paris Montparnasse ค่ะวันที่ 11 ของการเดินทาง วันนี้ยังคงเที่ยวกันอยู่ในกรุงปารีส เมืองที่มีที่เที่ยวเยอะมาก ถามว่าเที่ยวกี่วันถึงจะพอ ต้องบอกว่าแล้วแต่ความชอบเลยค่ะ บางคนใช้เวลาหลายวันในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ที่มีเยอะมาก…หรือเดินเล่น ถ่ายรูป ที่ก็เยอะมาก…เช่นกัน ยิ่งถ้านักช้อป ก็มีร้านแบรนด์ดัง ๆ ให้เลือกช้อปเยอะมาก…หรือถ้านักชิม ปารีสก็มีร้านอาหารหลากหลายเชื้อชาติ ร้านขนมอร่อย ๆ ให้ชิมเยอะมาก….สรุปคือกี่วันก็ไม่พอค่ะ 555 เช้านี้ไปชมมหาวิหารซาเกรเกอร์ (The Basilica of the Sacred Heart) ที่ย่านมงมาตร์ (Montmartre) กัน มหาวิหารนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา มีให้เลือกขึ้นแบบเหนื่อยหน่อยกับไม่เหนื่อย คือทางบันไดกับกระเช้า แน่นอนว่าเดินดีกว่าค่ะ ^^ระหว่างทางขึ้น ทำการบ้านมาพอสมควรว่าบริเวณนี้มักจะมีคนผิวสีอยู่กันเป็นกลุ่ม ทำทีเข้ามาผูกข้อมือแล้วจะมาขอเงินบริจาค พอเราเดินไปถึง อยากจะบอกว่าเหมือนกับที่อ่านมาเปี๊ยบเลย ทำได้อย่างเดียวก็คือเดินหนีเร็ว ๆ ค่ะ พอพวกเรารีบเดินกันแล้ว ได้ยินคนในกลุ่มพูดว่า She knows พอเราหันหลังไปเจอคู่สามีฝรั่งตามมา เค้าคงไม่รู้ค่ะว่าคืออะไร ก็โดนล้อมหน้าล้อมหลังเลยทีเดียว ไปเที่ยวปารีส ถ้าเจอกลุ่มคนพวกนี้ ทางที่ดีควรระวังกระเป๋าเราไว้ก่อน เพราะในขณะที่คนนึงมาดึงความสนใจให้เรารำคาญ อีกคนก็มาล้วงกระเป๋าเราไปได้ง่าย ๆ ยิ่งมาเที่ยวเมืองใหญ่ก็ต้องยิ่งระวังตัวมากขึ้นค่ะโบสถ์ซาเกรเกอร์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับทหารฝรั่งเศสที่เสียชีวิตในสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย 58,000 คน โบสถ์นี้ใช้เวลาสร้างกว่า 46 ปี

บริเวณรอบ ๆ มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และยังเป็นอีก 1 จุดชมวิวที่สามารถเห็นวิวเมืองปารีสได้ ส่วนห้องน้ำมีตรงโบสถ์ หรือไม่ก็ห้องน้ำสาธารณะด้านล่างเลยค่ะช่วงสาย ๆ ไปเที่ยวมหาวิหารนอธเทรอดามแห่งปารีสกันค่ะ (Notre Dame de Paris) ระหว่างทางเดินไปผ่านกงเซียร์เซอรี-ปาเลเดอจูสตีซ (Conciergerie-Palais de Justice) สวยขนาดนี้ จากพระราชวังของพระเจ้าฟิลิปที่ 14 ในช่วงศตวรรษที่ 14 จะกลายมาเป็นคุกไว้คุมขังนักโทษทางการเมืองในยุคปฎิวัติฝรั่งเศส และนักโทษที่โด่งดังที่สุดคือ พระนางมารี อังตัวเนตต์ พระชายาในพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ที่โดนประหารด้วยกิโยตินฝั่งตรงข้ามเป็น Hotel de Ville เห็นชื่อว่า hotel แต่ไม่ได้แปลว่าโรงแรมแต่อย่างใด โอแตลเดอวิลล์ หรือศาลาว่าการแห่งเมืองปารีสสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 เคยถูกเผาทำลายไปในช่วงปฎิวัติฝรั่งเศส และลานด้านหน้าก็เคยใช้เป็นลานประหารนักโทษการเมืองมากมาย อาคารที่เห็นได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี 1882มหาวิหารนอธเทรอดาม (Notre-Dame Cathedral) แปลว่า Our lady หรือพระแม่มารี สร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 12 แต่ที่เห็นได้รับการบูรณะในช่วงศตวรรษที่ 19 สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 และ 14 เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ยอดปลายแหลมบนหลังคาสูง 96 เมตร ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญ ๆ หลายพิธีและที่โด่งดังที่สุดคือนโปเลียน โบนาปาร์ต ได้สวมมงกุฎจักรพรรดิ์ให้กับตนเองมีประตูทางเข้าบานใหญ่อยู่ 3 บาน ซ้ายสุดคือประตูพระแม่ (Portal of The Virgin) ประตูกลางคือประตูคำพิพากษา (Portal of the Last Judgement) และประตูขวาสุดคือประตูเซนต์แอนน์ (Portal of Saint Anne)มีการแกะสลักรูปนักบุญไว้อย่างสวยงามทุกประตูParis Zero หรือสะดือปารีส จุดกลมหน้ามหาวิหารเปรียบเหมือนหลักกิโลเมตรที่ศูนย์ของฝรั่งเศส เพื่อใช้วัดระยะทางไปยังเมืองต่างๆ และผู้คนเชื่อว่าถ้าไปยืนจะได้กลับมาเยือนปารีสอีกครั้งแต่ที่แปลกประหลาดใจมากคือห้องน้ำที่ปารีส โดยเฉพาะตรงมหาวิหารนี้ตั้งอยู่ทางขวาลงไปใต้ดิน คิวรอยาวมากกกก เพิ่งจะเคยเจอคิวห้องน้ำยาวมากขนาดนี้ ปารีสเลยโดยคอนเพลนบ่อยเรื่องห้องน้ำไม่เพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าอยากประหยัดเวลาในการรอ แนะนำให้เข้าไปซื้อกาแฟที่ร้านคาเฟ่ แล้วใช้บริการห้องน้ำที่ร้านไปเลยดีกว่าค่ะ มื้อกลางวันวันนี้ไปทานกันที่ Bouillon Chartier Restaurant แถว ๆ มงมาร์ต เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสเก่าแก่ เปิดมาตั้งแต่ปี 1896 มื้อนี้มาทานหอยทากอบเนยกัน หาดูแล้วมีรูปร้านถ่ายไว้ 1 รูปด้วยกัน ทานเสร็จแล้วไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของฝรั่งเศสกันค่ะ นั่นก็คือ….หอไอเฟล ที่ออกแบบโดยนายกุสตาฟ ไอเฟล เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในงานแสดงสินค้า Universal Exposition ในปี 1889 ใช้เวลาสร้าง 2 ปี จริง ๆ ตั้งใจจะรื้อออกหลังงานแสดงสินค้าเสร็จ แม้ช่วงแรกจะถูกวิพากวิจารณ์ว่าไม่สวย ดูเกะกะ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีส มีความสูง 324 เมตร สามารถขึ้นลิฟท์ไปชมจุดชมวิวด้านบนได้ แต่ควรเผื่อเวลาไว้เช่นกัน คิวยาวทุกวัน เพราะปี ๆ นึงว่ากันว่ามีคนมาเยี่ยมชมกว่า 10 ล้านคนไปเดินเที่ยวกันต่อที่ถนนช้อปปิ้งชื่อดัง ถนนช็องเซลีเซ (Avenue des Champs-Élysées)  ตั้งอยู่เขตที่ 8 ของกรุงปารีส ใช้เวลาสร้างกว่า 30 ปี และได้เปิดใช้ในปี คศ. 1864 มีความยาว 1.91 กิโลเมตร กว้าง 70 เมตร และที่โดดเด่นมากบนถนนนี้คือประตูชัย หรือ Arc de Triomphe de l’Etoile เป็นจุดบรรจบของถนน 12 สายกลางวงเวียนชาร์ลสเดอโกลเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับจักรพรรดิ์นโปเลียนในการรบชนะศึกเอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี 1805 สถานที่นี้มักจะใช้จัดการเฉลิมฉลองต่าง ๆ รวมถึงงานศพของบุคคลสำคัญ ๆ แม้แต่ขบวนศพของนโปเลียนก็ได้ลอดผ่านประตูชัยนี้ ด้านบนสามารถขึ้นไปชมวิวได้ แต่ต้องเสียค่าเข้าชมค่ะมาช็องเซลีเซ ทั้งที หลายคนคงไม่พลาดกับร้านนี้ หรือถ้าอยากไปร้านแบรนด์อื่นๆ อย่างชาแนล กุชชี่ ปราดา ดิออร์ ก็ต้องไปที่ Avenue Montaigne ไปต่อคิวกันได้เลยค่ะหลังทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว จะไปล่องเรือแม่น้ำแซนของ Bateaux Mouches เห็นที่จอดรถโค้ชแล้วเตรียมใจไว้ได้เลย คนแน่นมากแน่ ๆ แม้เรือจะแล่นผ่านหลายสถานที่ที่เราไปเที่ยวมาแล้ว แต่การมองจากอีกมุมก็สวยไปอีกแบบค่ะมหาวิหารนอธเทรอดามจากด้านข้าง ใหญ่โตจนต้องสร้างโครงพยุงไว้ทางด้านข้าง

ล่องไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ประมาณทุ่มกว่า ๆ แล้ว ฟ้ายังสว่างอยู่เลยค่ะ มาเที่ยวหน้านี้ก็ดีตรงที่ช่วงกลางวันยาวนานดีล่องมาจนใกล้ถึงหอไอเฟลแล้ว ใช้เวลาล่องเรือทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนกลับที่พักเก็บกระเป๋ากลับบ้านพรุ่งนี้แล้วค่ะวันที่ 12 ของการเดินทาง เช้านี้ออกจากโรงแรม ยังมีเวลานิดหน่อยเลยแวะไปช้อปปิ้งกันที่ Aeroville เป็น shopping mall ใกล้ ๆ กับสนามบิน มีซุปเปอร์มาร์เก็ต Auchan ร้านขายของ ร้านกาแฟ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปสนามบินกันเร็วหน่อยเพื่อทำ tax refund โดยสามารถทำได้ก่อนจะไปเช็คอิน แต่ควรเผื่อเวลาไว้ด้วย คิวยาวเหมือนกันค่ะ หลังจากนั้นก็ค่อยไปเช็คอิน แล้วก็รอขึ้นเครื่องบิน ส่งท้ายด้วยรูปจากบนเครื่อง Air France นะคะ เจอกันทริปหน้าค่ะ…

บทความส่งท้าย :

1. ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ควรไปสักครั้งจริง ๆ ค่ะ ความสวยงามของธรรมชาติแตกต่างจากที่อื่นจริง ๆ ยังคงความดิบไว้ให้เราได้ชื่นชม แม้ทริปนี้เราจะไปกันยังไม่ทั่วเกาะแต่ก็คิดไว้แล้วว่าจะกลับไปไอซ์แลนด์กันอีกแน่ ๆ ค่ะ
2. การเลือกสายการบินก็ต้องแล้วแต่ความสะดวกบางคนชอบไฟล์ทดึก บางคนชอบไฟล์ทเช้า บางคนต้องสะสมไมล์กับสายนั้น สายนี้ ส่วนตัวคิดว่าถ้าเปลี่ยนเครื่องได้น้อยก็จะได้ไม่เหนื่อยมากเกินไป
3. ถ้าสามารถเดินทางได้หลายวัน ขากลับอาจจะแวะที่ยุโรป 2-3 วันก่อนกลับเผื่อไว้ช้อปปิ้งก็ได้ค่ะเพราะไอซ์แลนด์ไม่ใช่แนวสายช้อปแน่ ๆ  หรือถ้าไม่ใช่สายช้อปหรือไม่สามารถเดินทางได้หลายวันก็แค่เปลี่ยนเครื่องแล้วก็กลับเมืองไทยเลยก็ได้ แล้วแต่สะดวก
4. อาหารที่ไอซ์แลนด์ส่วนมากเป็นอาหารฝรั่ง เน้น ๆ ก็จะเป็นอาหารทะเล สด อร่อย 
5. ภูมิอากาศและฤดูกาลที่ไอซ์แลนด์มีส่วนสำคัญในการวางแผนการเดินทาง รวมถึงค่าครองชีพไอซ์แลนด์สูงพอสมควร ดังนั้นควรวางแผนการเดินทางให้กระชับ 
6. ฝรั่งเศสเป็นประเทศขนาดใหญ่ มีความหลากหลายทั้งธรรมชาติและเมือง แต่อาจจะมีบางอย่างรวม ๆ ดูคล้ายกันเช่นมหาวิหาร โบสถ์ หรือปราสาท เส้นทางนอร์มังดี ลุ่มแม่น้ำลัวร์ ก็เป็นเส้นทางธรรมชาติ ชนบทหน่อย ๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้ได้ชมอยู่ ถ้าใครชอบแนวนี้ก็ลองแวะไปเที่ยวกันได้ค่ะ
7. อาหารฝรั่งเศสอร่อยขึ้นชื่ออยู่แล้ว ถ้าเบื่ออาหารฝรั่ง อาหารเอเชียหรือ Fast food ก็หาทานกันได้ตามเมืองใหญ่ ๆ 
8. การเดินทางท่องเที่ยวในฝรั่งเศสไม่ว่าจะเดินเล่นในเมือง ขึ้นรถสาธารณะ ขึ้นชื่อมากเรื่องความไม่ค่อยปลอดภัย ควรระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ของมีค่าทั้งหลาย พาสปอร์ตก็ต้องเก็บให้มิดชิดสุด ๆ เป็นอีก 1 เหตุผลว่าทำไมเราถึงเดินทางกันไปหลายคนเพื่อที่จะได้ใช้รถโค้ชพร้อมคนขับได้ สบายใจกว่าค่ะ
9. ค่าใช้จ่ายทริปนี้ค่อนข้างสูง หลัก ๆ ก็เป็นค่าตั๋วเครื่องบิน Air France และ Iceland Air ส่วนโรงแรมและอาหารก็สามารถเลือกกันได้ตาม budget ค่ะ 
10. สรุปของสรุปของทริปนี้ก็เป็นอีก 1 เส้นทางที่ชอบ โดยเฉพาะธรรมชาติและได้ขี่ snowmobile ที่ Iceland สนุกสุด ๆ ค่ะ ส่วนฝรั่งเศสก็สวยงามตามท้องเรื่องอยู่แล้ว ยิ่งเมืองเล็ก ๆ หมู่บ้านเล็ก ๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้มีให้ถ่ายรัว ๆ ตลอดทาง                                                                                   เจอกันใหม่รีวิวหน้านะคะ จะไปที่ไหนกันต่อ ติดตามได้เลยค่ะ