วันที่ห้าของการเดินทาง : ถ้าเป็นบ้านเราช่วงนี้คงจะร้อนมากแต่ที่เท อนาว (Te Anau) หนาวมากค่ะ เช้านี้เราต้องออกจากที่พักก่อน 6 โมงเช้า ระยะทางจากเท อนาว (Te Anau) ไปมิลฟอร์ดซาวน์ (Milford Sound) 118 กม. ใช้เวลาประมาณ 01.30 ชั่วโมง ใครใคร่หลับก็หลับไป ใครใคร่ขับก็ขับไป น้องตาลสู้ ๆ ^^
จากเท อนาว (Te Anau) เราจะวิ่งผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนกันไปมา จนคนที่นั่งหลับๆ ตื่นๆ ยังเวียนหัวไปด้วย ใครเมารถง่ายอย่าลืมทานยาแก้เมาก่อนนะคะ แม้ทางจะคดเคี้ยวมากแต่ด้วยความงามและทิวทัศน์อันหลากหลายของเส้นทางนี้จึงได้รับเลือกให้เป็น World Heritage Highway เอาน๊าคุ้มกับวิวสวย ๆ อุโมงค์โฮเมอร์ (Homer Tunnel) อุโมงค์ที่เจาะทะลุภูเขาโดยใช้เวลาสร้างถึง 20 ปี เปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ.1954 โดยวิ่งแบบเลนเดียว มีระยะทาง 1.2 กม.
ระหว่างจอดรอสัญญาณไฟให้รถวิ่งไปได้ มุงอะไรกัน อ๋อ…เจ้านก Kea นี่เอง
เดินทางข้ามอุโมงค์กาลเวลา ย้อนกลับไปสู่ธรรมชาติที่ซ่อนเร้นบนโลกใบนี้
บรรยากาศบริเวณที่รอขึ้นเรือ มีให้บริการอยู่หลายบริษัท
เรือ Real Journey ที่จะพาเราชมฟยอร์ดของนิวซีแลนด์ ดูรายละเอียดได้ที่ –> https://www.realjourneys.co.nz/en/destinations/milford-sound/ จองผ่านทางเวบไซต์ ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตแล้วก็ปริ้นท์ใบ confirmation มาแค่นี้ค่ะ
เรือเราเป็นพี่เบิ้ม เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เลือกบริษัทนี้ สมาชิกเกรงว่าจะเมาเรือกันเลยขอเรือลำใหญ่ไว้ก่อน
บรรยากาศบนเรือส่วนตัวของเราเอง แทบจะไม่มีคนเลยค่ะ
มีมุมชา กาแฟ บริการตนเองฟรี
บนดาดฟ้าเรือโต้ลมชมวิว
ยิ่งนั่งยิ่งหนาว
มีน้ำตกอยู่ริมฝั่ง
ลมแรงมากและหนาวมาก สุดท้ายทุกคนกลับไปหลบในเคบินดีกว่า
สนุกสนานกับทริปล่องเรือส่วนตัวของเราเอง ขากลับก็กลับมาที่จุดเดิม เรือลำนี้สวยเก๋ทีเดียว
อีกรูประหว่างทางเดินไปที่จอดรถ
หลังจากนั้นเราก็ขับรถย้อนกลับไปเส้นเดิม แต่ระหว่างทางจะแวะชมทะเลสาบกระจกหรือ Mirror Lake กัน เห็นป้ายแล้วพอมีกำลังใจ 15 นาทีเอง จิ๊บ ๆ
ภารกิจเดินป่า ระหว่างทางจะได้ชมต้นไม้แปลก ๆ เยอะมากคนเที่ยวไปนาน ๆ ก็เริ่มแปลก ๆบรรยากาศร่มรื่นและรื่นรมย์มาก ๆ เดินกันได้เพลิน ๆ กำลังเคลิ้มกับเสียงลำธารแต่แล้วก็ได้ยินเสียงน้ำดังกึกก้องมาก ชะโงกดูข้างในมันจะเป็นโพรง ดังจนหายง่วงได้เลย
สองขายังคงก้าวเดินไปหาพระเอกกันต่อ
ถึงแล้วค่ะ ทะเลสาบกระจก หรือ Mirror Lakes ที่ได้ชื่อนี้เพราะเปรียบว่าน้ำใสสะท้อนให้เราเห็นราวกับส่องกระจก
นำ้ใสไหลเย็นเห็นท่อนไม้
วิวรอบ ๆ
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถแวะทานกลางวันที่เมืองเท อนาว (Te Anau) ก่อนมุ่งหน้าสู่เมืองควีนส์ทาวน์ (Queenstown) ค่ะวิวสวยตลอดทาง ที่สำคัญถนนโล่งมากกก อิจฉาจริง ๆอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของประเทศนิวซีแลนด์นั่นก็คือสะพานเอื้ออาทร เป็นสะพานเลนเดียว สลับกันไปมาทีละฝั่ง โดยดูที่สัญญาณไฟค่ะในที่สุดก็ถึงควีนส์ทาวน์ (Queenstown) กันซะที เช็คอินเอาสัมภาระเก็บกันก่อน ที่พักคืนนี้ Oak Shores Queenstown, 327-343 Frankton Road, Queenstown เป็นห้อง duplex มี 2 ชั้น ทั้งหมด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ รูปมัวไปหน่อยค่ะ รีบถ่าย รีบออก รีบไปเที่ยวต่อ
มองออกไปเห็นวิวทะเลสาบชัด ๆ
ชั้นบนมีห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำส่วนตัว ชุดรับแขกและครัวที่เล็กกว่าด้านล่างหน่อย
ตกลงกันได้เรียบร้อยว่าใครจะนอนห้องไหน ทุกคนอยากจะฝังตัวลงที่นอนกันทีเดียว ไม่ได้ ๆ รีบต้อนทุกคนขึ้นรถไปเดินเล่นในเมืองกันดีกว่า ขับรถเข้าเมืองไปแค่ประมาณ 10 นาที
เดินเล่นรอบ ๆ เมือง คึกคักเชียวหลังจากไปหลงธรรมชาติมา 2 วัน
เข้าร้านขายของที่ระทึกกันดีกว่า
สินค้าที่ควรซื้อก็หนีไม่พ้นครีมรกแกะ Placenta แต่ถ้าเป็น Lanolin ก็เป็นมีครีมที่ทำมาจากน้ำมันขนแกะ แล้วก็สารพัดวิตามิน นิวซีแลนด์ไม่มี tax refund สำหรับนักท่องเที่ยวค่ะ ดีไปอย่างไม่ต้องปวดหัวทำเรื่องตอนขากลับ
อาหารมื้อเย็น พลาดไม่ได้กับร้านเบเกอร์ชื่อดัง Ferg Burger คนแน่นมากกก
ปกติไม่ค่อยตามรอยร้านดังเพราะไม่ชอบรอคิว แต่ร้านนี้กินแล้วทุกคนยกนิ้วให้ อร่อยมว๊ากกกกวันที่หกของการเดินทาง : วันนี้จะเที่ยวกันอยู่ที่ควีนส์ทาวน์ (Queenstown) แต่กว่าจะออกจากที่พักได้ ทุกคนก็มัวแต่วุ่นวายกับวิวตรงระเบียงนี้กัน
ซูมไปฝั่งตรงข้าม หมอกจางๆ หรือควัน
วันนี้เราจะนั่งรถเมล์เข้าเมืองกันค่ะ จากที่พักเราเข้าไปนิดเดียว จะได้ไม่ต้องไปวนหาที่จอดรถกัน
นั่งมาไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงใจกลางเมืองกันแล้วฟ้าแดงตัดกันลงตัวจริงๆมีร้านขนมหวาน The Remarkable Sweet shop ด้วย ร้านนี้ที่เพิ่งแวะกันไปตอนเดินเที่ยวเมืองแอร์โร่ทาวน์ (Arrowntown) แวะชิมร้านขนมหวาน Patagonia อยู่แถว ๆ ท่าเรืออร่อยทุกเมนู สมชื่อเป็นร้านดัง ถ่ายทันมาแค่ 2 จาน…พลาดตลอดอิ่มหนำสำราญแล้ว เราจะไปล่องเรือชมฟาร์มแกะกัน ได้เวลาไปขึ้นเรือ TSS Earnslaw เดินไปนิดเดียวเองค่ะ
ลอยล่องบนทะเลสาบวาคาติปูและวิวเมืองควีนส์ทาวน์
บรรยากาศบนเรือ ใช้เวลาล่องประมาณ 40 นาทีไปยัง Walter Peak Farmมีคุณป้าเล่นเปียโนเพราะ ๆ ขับกล่อมเราไปตลอดทาง
ถึงแล้วค่ะ ตอนที่ซื้อตั๋วมาเที่ยวที่นี่จะมีให้เลือกด้วยว่าจะรวมมื้อกลางวันแบบ BBQ buffet ด้วยหรือเปล่า หรือจะชมแต่ฟาร์มอย่างเดียวพร้อมของว่าง กรุ๊ปเราเลือกแบบหลัง ต้องเก็บท้องไว้สำหรับบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นที่รอเราอยู่ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ตามนี้ค่ะ –> https://www.realjourneys.co.nz/en/experiences/tours/walter-peak-farm-tours/
เจ้าหน้าที่จะแบ่งกลุ่มว่าใครซื้อทัวร์แบบไหนมา ของเราก็ไปทางทัวร์ชมฟาร์ม จะมีให้ชมสุนัขต้อนแกะ ให้อาหารแกะ การสาธิตวิธีตัดขนแกะ การทอขนแกะ ท่าจะยกเว้นอย่างเดียวคือ…กินแกะค่ะ ^^
พร้อมชมสุนัขต้อนแกะ ใช้สุนัขแค่ 2 ตัว ต้อนหน้าต้อนหลัง
แล้วก็ไปชมวิธีการสาธิตการตัดขนแกะ
น้องแกะกำลังจะโป๊แล้วครับ
ขนแกะมีคุณลักษณะมัน ๆ จึงทำให้มีการสกัดน้ำมันจากขนแกะที่เรียกว่าลาโนลิน ถือว่าเป็นน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยรักษาน้ำหล่อเลี้ยงผิว
หลังจากรายการนี้ก็เป็น Tea time ค่ะ มีเครื่องดื่ม ชากาแฟ ขนมไว้ให้เราเลือกทานแต่กว่าจะไปถึง เดินผ่านสวนสวยๆ ถึงกับลืมกาแฟกันทีเดียวTea time
หลังจากนั้นก็ออกไปทัวร์ชมฟาร์มกันต่อ
ผมควรตัดผมด้านหน้ามั้ยครับ
และก่อนขึ้นเรือกลับ ก็มาถึงจุดที่สำคัญนั่นก็คือร้านขายของที่ระลึกนั่นเองโชว์การทอขนแกะ
จบโปรแกรมเที่ยวแล้วก็ล่องเรือกลับควีนส์ทาวน์กัน ถ้าถามว่าควรซื้อทัวร์มาเที่ยวมั้ย ขอตอบเลยว่าควรค่ะ
จากจุดจอดเรือก็เดินกันไปเรื่อย ๆ เย็นนี้จะไปเที่ยวและทานบุฟเฟ่ต์กันที่ Skyline Gondola เราซื้อตั๋วกันเรียบร้อยผ่านเวบไซต์นี้เลยค่ะ –> https://www.skyline.co.nz/en/queenstown/ พร้อมแล้วขึ้นกระเช้ากันเลย มองลงมาเห็นเมืองควีนส์ทาวน์ ทะเลสาบวาคาติปูและเทือกเขาทอดยาวไปตลอด แต่ช่วงเย็น ๆ แบบนี้มีแดดครึ่งเดียว ถ่ายรูปมาเลยเป็นลูกครึ่ง…ครึ่งมืดครึ่งสว่าง ><
ยังไม่ได้เวลาอาหารเย็นค่ะ ไปเล่น luge กันก่อน ซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นกระเช้าแบบห้อยขาไปเริ่มจากจุดด้านบน รายละเอียดดูที่เวบไซต์นี้ได้เลยค่ะ https://www.skyline.co.nz/en/queenstown/things-to-do/skyline-luge-queenstown/queenstown-luge-prices/
Luge เป็นเครื่องเล่นที่มีสามล้อ ควบคุมการบังคับด้วยมือ โดยเจ้าหน้าที่จะสอนก่อนจะปล่อยเราออกไปพร้อมไปละคร้าบบบบ ขอแนะนำว่ากิจกรรมนี้เมื่อมาถึงนิวซีแลนด์แล้วไม่ควรพลาดและครั้งเดียวไม่เคยพอ
หลังจากนั้นก็ได้เวลาบุฟเฟ่ต์ที่รอคอยถ้าเทียบกับราคาแล้ว แอบผิดหวังเล็ก ๆ อาหารไม่เยอะและรสชาติไม่ว้าวอย่างที่คิดไว้
และเผื่อใครสนใจอยากชมโชว์ต่อ
เป็นอีก 1 วันที่ยาวนานมากกกก แต่สมาชิกบางส่วนยังขอไปซิ่งต่อที่ Ice bar พรุ่งนี้เราต้องเช็คเอ้าท์ออกจากที่นี่ย้ายเมืองกันแล้วค่ะ
รีวิวหน้า Shotover jet, Puzzle world, Blue pool และ Fox Glacier ค่ะ : https://dreamfirsttrip.wordpress.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C-shotover/